เปิดกลยุทธ์ Blue Ocean พร้อมวิธีหาน่านน้ำสีฟ้าเพื่อสร้างความแตกต่างสำหรับธุรกิจของคุณ

เปิดกลยุทธ์ Blue Ocean พร้อมวิธีหาน่านน้ำสีฟ้าเพื่อสร้างความแตกต่างสำหรับธุรกิจของคุณ

ท่ามกลางยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันกันสูงและมีธุรกิจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน การเป็นธุรกิจชั้นนำในอุตสาหกรรมอาจเป็นเรื่องยากถ้าไม่มีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากพอ

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดก็อาจจะเคยได้ยินคำว่า “Blue Ocean” กันมาบ้างแล้ว กลยุทธ์นี้เป็นหนึ่งในตัวช่วยเปลี่ยนธุรกิจของคุณให้โดดเด่นด้วยการสร้างนวัตกรรมหรือสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน

ซึ่งกลยุทธ์ Blue Ocean นี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีเอกลักษณ์และเป็นที่น่าจดจำในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ในบทความนี้จะพามาเปิดโลกของ Blue Ocean กลยุทธ์ที่ควรนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความแตกต่างสำหรับธุรกิจของคุณ พร้อมวิธีตามหา Blue Ocean ที่ใช่ให้กับคุณ!

Blue Ocean คืออะไร?

Blue Ocean หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ‘น่านน้ำสีฟ้า’ ตลาดที่เต็มไปด้วยความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย แต่แทบจะไม่มีคู่แข่งคนไหนที่สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนเหล่านี้ได้ พูดง่ายๆ ก็คือพื้นที่ทางการตลาดที่มีคู่แข่งน้อยมากหรืออาจจะไม่มีคู่แข่งเลย 

โดยแนวคิดหลักของกลยุทธ์ Blue Ocean คือ การนำพาธุรกิจไปสู่การสร้างตลาดใหม่ที่เต็มไปด้วยกลุ่มเป้าหมาย และไร้คู่แข่ง แทนที่จะอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความต้องการของลูกค้า แต่มีคู่แข่งคอยรองรับความต้องการเหล่านั้นเต็มไปหมดอย่าง Red Ocean

ด้วยเหตุนี้เอง Blue Ocean จึงเป็นพื้นที่ที่หลากหลายธุรกิจต่างก็พากันจับจ้องเพื่อจะเป็นหนึ่งเดียวในตลาดที่ไร้คู่แข่ง และเป็นกลยุทธ์ที่ทุกธุรกิจควรให้ความสำคัญในยุคที่การแข่งขันสูงอย่างปัจจุบัน

ข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์ Blue Ocean

ข้อดีของ Blue Ocean
  • ลดการแข่งขันทางธุรกิจ: Blue Ocean เป็นพื้นที่ทางการตลาดที่เต็มไปด้วยความต้องการของลูกค้าที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากธุรกิจ จึงเป็นพื้นที่ที่แทบจะไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจเลย ถ้ามีก็น้อยมากทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งเพื่อเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมไม่ใช่ความท้าทายของพื้นที่นี้ ต่างจาก Red Ocean ที่เต็มไปด้วยคู่แข่งในตลาด
  • มีโอกาสเติบโตสูง: การทำธุรกิจในพื้นที่ที่ไร้คู่แข่งทำให้ธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นไม่อยู่ในกรอบ สามารถคิดสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะไปซ้ำกับใครทำให้มีโอกาสในการพัฒนาและเติบโตสูง
  • กำไรสูงขึ้น: บางครั้งถ้าธุรกิจมีคู่แข่งสูง เราอาจกังวลว่าการตั้งราคาสินค้าที่สูงกว่าคู่แข่งจะทำให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าของคู่แข่งแทน แต่สำหรับ Blue Ocean กลุ่มเป้าหมายมีความต้องการที่สูงพอที่จะซื้อสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาแม้ราคาจะสูงเนื่องจากไม่ค่อยมีธุรกิจที่สนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้เท่าไหร่ทำให้ได้กำไรมากกว่าการทำธุรกิจใน Red Ocean
  • กลุ่มลูกค้าที่ใช่: บางครั้งสินค้าและบริการที่มียอดขายไม่ดีนักอาจเป็นเพราะว่าเราจับลูกค้าผิดกลุ่ม การลองเป็นผู้เล่นใน Blue Ocean อาจจะทำให้สินค้าและบริการเหล่านั้นสร้างยอดขายขึ้นมาเพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าที่ใช่
ข้อเสียของ Blue Ocean
  • ความเสี่ยงสูง: การเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาดแม้ว่าจะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของการตั้งราคา การนำเสนอสินค้าที่ไร้กรอบความคิด แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากยังไม่มีตัวอย่างธุรกิจที่เคยนำเสนอสินค้าและบริการที่คล้ายกันให้กับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว เมื่อไม่มีตัวอย่างที่ผ่านการทดลองมาแล้วทำให้ไม่มี insight จากผู้ใช้บริการ การเปิดตัวสินค้าและบริการใหม่จึงมีความเสี่ยงที่สูง
  • ความไม่แน่นอนของตลาด: Blue Ocean เป็นตลาดที่ไร้คู่แข่งก็จริง แต่เมื่อเรากลายเป็นผู้เล่นในตลาดไปแล้ว สินค้าและบริการของเราอาจจะถูกลอกเลียนแบบ เมื่อเวลาผ่านไป Blue Ocean อาจจะกลายเป็น Red Ocean ก็ได้
  • งบประมาณสูง: การเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาดใหม่อาจต้องใช้งบประมาณในการทำการตลาดที่สูงกว่าตลาดทั่วไป เนื่องจากต้องพยายามทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงประโยชน์และคุณค่าที่แท้จริงของสินค้าและบริการที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังต้องสร้างการจดจำเพื่อทำให้สินค้าถูกบอกต่อปากต่อปาก นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่เป็นเวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ

แสดงความคิดเห็น

Shopping Cart